Breakout Trading คืออะไร กลยุทธ์จับจังหวะราคาทะลุแนวรับแนวต้าน

  • Home icon
  • Blog
  • Breakout Trading คืออะไร กลยุทธ์จับจังหวะราคาทะลุแนวรับแนวต้าน

Breakout Trading คืออะไร? คำถามที่นักเทรดมือใหม่หลายคนมักมีข้อสงสัย ถ้าอธิบายเบื้องต้นแบบเข้าใจง่าย อาจบอกได้ว่า Breakout คือ กลยุทธ์เทคนิคการเทรดจับจังหวะราคาทะลุแนวรับแนวต้าน อันถือเป็นปัจจัยสำคัญของการเทรดสินทรัพย์หลายประเภททั้งฟอเร็กซ์ ทอง หุ้น เพราะนี่คือสัญญาณที่กำลังบ่งบอกถึงแนวโน้มราคาที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ในอีกไม่นานต่อจากนี้ เช่น หากราคาร่วงลงมาจนทะลุแนวต้าน อาจบอกถึงราคาสินทรัพย์นั้นที่กำลังร่วงตกลงมา คุณจึงสามารถสังเกตกราฟแล้วเข้าเทรดได้ทันที

อย่างไรก็ตามเพื่อสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจกันแบบละเอียด บทความนี้ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ Breakout Trading ไปจนถึงวิธีและขั้นตอนทำ Breakout เพื่อให้ทุกคนนำไปปรับใช้กับการเทรดของตนเองได้เลยไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ ฟอเร็กซ์

Breakout Trading คืออะไร

Breakout คือ รูปแบบการเทรดประเภทหนึ่งที่จะอาศัยการสังเกตเส้นกราฟของสินทรัพย์นั้นว่าทะลุออกจากแนวรับ แนวต้าน หรือไม่ เช่น ราคาทองพุ่งทะลุแนวต้านขึ้นไป บวกกับมีปริมาณการซื้อ-ขายเกิดขึ้นสูง นั่นบ่งบอกได้ในระดับหนึ่งว่าราคาสินทรัพย์มีโอกาสไปในทิศทางดังกล่าว สามารถใช้ได้กับทั้งฟอเร็กซ์ ทองคำ หุ้น เทคนิคเบื้องต้นที่นิยมใช้สำหรับการ Breakout Trading เมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาทะลุแนวไปเรียบร้อย เทรดเดอร์จะมองหาจังหวะที่เหมาะสมจากนั้นจึงเข้าเทรดเพื่อโอกาสทำกำไรจากจังหวะที่ราคามีความเคลื่อนไหวนั่นเอง

วิธีการทำ Breakout Trading

ในส่วนของวิธีใช้เทคนิค Breakout Trading ให้สังเกตจังหวะ Breakout ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อกราฟราคาทะลุระดับราคาสำคัญของทั้งแนวรับหรือแนวต้าน โดยมีจุดสังเกต คือ

  • แนวรับ (Support Levels) หัวลูกศรจะหยุดตกและมักกลับตัวขึ้น แต่ถ้าราคาทะลุแนวรับลงไปจะเรียกแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง (Bearish Breakout)
  • แนวต้าน (Resistance Levels) หัวลูกศรจะหยุดขึ้นแล้วมักกลับตัวลง แต่ถ้าราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปจะเรียกแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง (Bullish Breakout)

ซึ่งวิธีสรุปแบบเข้าใจง่ายคือ ปกติแล้วนักลงทุนมักเปิดราคาซื้อหากราคาปิดเหนือแนวต้าน และมักเปิดราคาขายหากราคาปิดต่ำกว่าแนวรับ

ขั้นตอนของ Breakout Trading

  1. เลือกประเภทสินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุน สังเกตจากประวัติสินทรัพย์ดังกล่าวว่ามีแนวโน้มหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตอย่างไรบ้าง
  2. หาจุดเข้าเทรด ซึ่งตรงกับที่อธิบายไว้ก่อนหน้าคือ มักเปิดราคาซื้อเมื่อราคาปิดเหนือแนวต้านและเปิดราคาขายเมื่อราคาปิดต่ำกว่าแนวรับ
  3. วางแผนเพื่อหาจุดออกให้ดี แนะนำให้กำหนดล่วงหน้า เช่น กำหนด Take Profit และ Stop Loss หากกำไรขึ้นไปถึงจุดที่กำหนด TP ก็ให้หยุด รวมถึงหากขาดทุนจนถึงจุด SL ก็ต้องหยุดเพื่อไมให้ขาดทุนมากไปกว่านี้ เป็นต้น

ประเภทของการ Breakout Trading

Breakout Trading

  1. Horizontal Breakouts – ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านตามแนวนอน มักพบในสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวในกรอบราคาแคบมานาน บ่งบอกสมดุลของราคาซื้อ-ขาย
  2. Trendline Breakouts – ราคาทะลุเส้นแนวโน้มผ่านจุดสูงต่ำที่สูงขึ้น หรือจุดสูงสุดที่ต่ำลง บ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการต่อเนื่องตามแนวโน้มเดิม
  3. Triangle Breakouts – ราคาทะลุเขตด้านบนหรือด้านล่างเป็นแบบสามเหลี่ยม บ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการต่อเนื่องตามแนวโน้มเดิม
  4. Head and Shoulders – ราคาทะลุ Neckline ของประเภทนี้สังเกตจากยอด 3 จุด ตรงกลางคือศีรษะ ด้านล่าง 2 ข้างคือไหล่ บ่งบอกการกลับตัวของแนวโน้ม
  5. Flag and Pennant – แสดงถึงแนวโน้มแข็งแกร่ง มักบ่งบอกสัญญาณเคลื่อนตัวไปทิศทางเดิม

Breakout Trading

ข้อดีของ Breakout Trading

  • มีโอกาสทำกำไรสูง เพราะเมื่อทะลุไปแล้วราคามักเคลื่อนตัวเร็ว
  • มีจุดเข้า-ออกชัดเจน ลดการใช้อารมณ์ จึงลดการขาดทุน
  • ใช้ได้กับตลาดหลายรูปแบบทั้งฟอเร็กซ์ หุ้น ทองคำ
  • บริหารความเสี่ยงง่าย โดยใช้เครื่องมือ เช่น กำหนด TP, SL

ข้อเสียของ Breakout Trading

ต้องตัดสินใจเร็ว มีความอดทนสูง รวมถึงยังอาจเกิดการทะลุหลอก หรือ False Breakout ขึ้นได้ และบ่อยครั้งตลาดอาจมีระดับความผันผวนสูง

ตัวอย่างการนำเทคนิค Breakout Trading ไปประยุกต์ใช้

เมื่อรู้จักกันแล้วว่า Breakout คืออีกตัวช่วยดี ๆ จึงมาศึกษาตัวอย่างเกี่ยวกับเทคนิคที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับสินทรัพย์ต่าง ๆ กันเลย

ฟอเร็กซ์

คู่สกุลเงิน USD/GBP มีแนวต้านสำคัญระดับหนึ่งแล้วสักพักราคาทะลุเหนือแนวต้านและมีนักลงทุนตัดสินใจเทรดต่อเนื่อง คุณสามารถเปิดสถานะซื้อได้หากคิดว่าราคาจะรักษาระดับนี้ต่อเนื่อง มักเกิดช่วงเปิดตลาดนิวยอร์กหรือลอนดอน อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์

หุ้น

การ Breakout Trading ของหุ้นมักได้รับอิทธิพลจากการประกาศผลประกอบการของหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ความเชื่อมั่นของตลาด หรือแนวโน้มอุตสาหกรรม จึงต้องสังเกตปริมาณซื้อขายของเทรดเดอร์เป็นหลัก อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรดหุ้น

ทอง

เน้นสังเกตราคากราฟ XAUUSD ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวไปทางใดต่อเนื่อง เช่น ราคาขยับเข้าใกล้แนวต้านสำคัญบวกกับแท่งเทียนค่อย ๆ เล็กลง RSI ไม่เกิน 70 มีโอกาสที่ราคาจะทะลุแนวต้าน จึงควรเปิดสถานะซื้อหากราคาทะลุเรียบร้อย อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรดทองคำ

โดยสรุปแล้ว Breakout คือ เทคนิคการเทรดที่ต้องอาศัยการสังเกตจากแนวรับ แนวต้าน ของสินทรัพย์ที่เลือกลงทุนซึ่งมีหลายตลาดมากที่นิยมนำกลยุทธ์นี้ไปใช้เทรดจริง เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น ทอง จากนั้นเมื่อเห็นโอกาสก็เข้าเทรดได้ทันที โอกาสได้กำไรมีสูงมาก

อย่างไรก็ตามต้องคอยระวังความเสี่ยง False Breakout ดังนั้นเพื่อความมั่นใจแนะนำให้เริ่มต้นใช้บัญชีทดลองเทรดก่อน และหากต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทการเทรดอื่น ๆ หรือเทคนิคการเทรดชั้นยอดลองเข้ามาดูในเว็บไซต์เราได้เลย WeMasterTrade

انضم إلى فريق التداول لدينا!

LineChat